ผลวิจัยชี้รถที่ใช้น้ำมันจะถึงจุดจบภายใน8 ปี บริษัทน้ำมันจะล้มระเนระนาด
จะไม่มีการขายรถยนต์ รถบัส และรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันโซลาร์หรือดีเซลในทุกแห่งทั่วโลกภายใน 8 ปี การขนส่งทางบกทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นำไปสู่การลดลงของราคาน้ำมันอย่างรุนแรงและการสิ้นสุดของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมที่ยืนยงมานับศตวรรษ
นั่นคือคำทำนายอนาคตของ Tony Seba นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ที่แพร่หลายในหมู่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและได้สร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงต่อวงการธุรกิจน้ำมัน
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือผู้คนจะเลิกขับรถเอง พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
จะเหลือเจ้าของรถไม่มากนักที่ยังจมอยู่กับอดีตและยึดติดการใช้รถแบบเก่า ที่เหลือจะเปลี่ยนไปใช้รถที่ทันสมัย ในอนาคตจะหาปั๊มน้ำมัน อะไหล่ รวมทั้งช่างซ่อมเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ยาก ผู้แทนจำหน่ายรถแบบเก่าจะหดหายไปภายในปี 2024
หน่วยราชการจะสั่งห้ามไม่ให้คนขับรถเมื่อมีข้อมูลยืนยันถึงอันตรายที่มีมากกว่าระบบขับอัตโนมัติ ราคารถมือสองจะตกต่ำรุนแรง คุณอาจต้องจ่ายเงินเพื่อเอารถคันเก่าของคุณไปทำลายทิ้ง
มันเป็นเกลียวมรณะ (Death Spiral) ของทั้งกลุ่มบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ และยังเกี่ยวพันไปถึงบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นที่ปรับตัวไม่ทันอีกด้วย
ราคาน้ำมันดิบจะลดลงถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลอย่างยาวนาน สกอตแลนด์จะสูญเสียแหล่งขุมทรัพย์ในทะเลเหนือ รัสเซีย, ซาอุดิอารเบีย, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลาจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบาก
มันจะเป็นภัยคุกคามต่อบริษัทฟอร์ด, จีเอ็ม และบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมัน พวกเขาจะต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำไรต่ำมากหรือผันตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไร้คนขับแบบ Uber และ Lyft
รถยนต์ยุคถัดไปจะเป็น “คอมพิวเตอร์ติดล้อ” Google, Apple, และ Foxconn มีเทคโนโลยีที่พร้อมจะเข้าไปยึดครอง และ Silicon Valley จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจรถยนต์ไม่ใช่ Detroit, Wolfsburg หรือ Toyota City อีกต่อไป
“เรากำลังอยู่ในจุดที่เป็นการแตกสลายของการขนส่งที่เร็วที่สุดลึกล้ำที่สุดอย่างต่อเนื่องมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์” Seba กล่าว “ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเข้าสู่วัฏจักรอันเลวร้ายของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”
จุดเปลี่ยนจะมาถึงภายในสองสามปีข้างหน้า เมื่อแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้เกิน 320 กิโลเมตร และราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2022 รุ่นต่ำสุดราคาจะเหลือเพียง 20,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลาย
“ภายในปี 2025 รถใหม่ทั้งหมดจะเป็นรถไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถบัส รถแทรกเตอร์ รถแวน ทุกอย่างที่มีล้อจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก” Seba กล่าว
ข้อมูลและภาพจาก financialpost, stuff.co.nz
จะไม่มีการขายรถยนต์ รถบัส และรถบรรทุกที่ใช้น้ำมันโซลาร์หรือดีเซลในทุกแห่งทั่วโลกภายใน 8 ปี การขนส่งทางบกทั้งหมดจะเปลี่ยนไปใช้ยานพาหนะที่ขับเคลื่อนด้วยไฟฟ้า นำไปสู่การลดลงของราคาน้ำมันอย่างรุนแรงและการสิ้นสุดของอุตสาหกรรมน้ำมันปิโตรเลียมที่ยืนยงมานับศตวรรษ
นั่นคือคำทำนายอนาคตของ Tony Seba นักเศรษฐศาสตร์ที่มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด ที่แพร่หลายในหมู่นักอนุรักษ์สิ่งแวดล้อมและได้สร้างความวิตกกังวลอย่างรุนแรงต่อวงการธุรกิจน้ำมัน
ข้อสมมุติฐานของ Seba คือผู้คนจะเลิกขับรถเอง พวกเขาจะเปลี่ยนมาใช้รถยนต์ไฟฟ้าแบบขับอัตโนมัติซึ่งถูกกว่ารถน้ำมันเป็นสิบเท่าและมีอายุการใช้งานยาวนานกว่ากันเยอะ
จะเหลือเจ้าของรถไม่มากนักที่ยังจมอยู่กับอดีตและยึดติดการใช้รถแบบเก่า ที่เหลือจะเปลี่ยนไปใช้รถที่ทันสมัย ในอนาคตจะหาปั๊มน้ำมัน อะไหล่ รวมทั้งช่างซ่อมเครื่องยนต์สันดาปภายในได้ยาก ผู้แทนจำหน่ายรถแบบเก่าจะหดหายไปภายในปี 2024
หน่วยราชการจะสั่งห้ามไม่ให้คนขับรถเมื่อมีข้อมูลยืนยันถึงอันตรายที่มีมากกว่าระบบขับอัตโนมัติ ราคารถมือสองจะตกต่ำรุนแรง คุณอาจต้องจ่ายเงินเพื่อเอารถคันเก่าของคุณไปทำลายทิ้ง
มันเป็นเกลียวมรณะ (Death Spiral) ของทั้งกลุ่มบริษัทค้าน้ำมันยักษ์ใหญ่และกลุ่มผู้ผลิตรถยนต์รายใหญ่ และยังเกี่ยวพันไปถึงบริษัทใหญ่ในตลาดหุ้นที่ปรับตัวไม่ทันอีกด้วย
ราคาน้ำมันดิบจะลดลงถึง 25 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาเรลอย่างยาวนาน สกอตแลนด์จะสูญเสียแหล่งขุมทรัพย์ในทะเลเหนือ รัสเซีย, ซาอุดิอารเบีย, ไนจีเรีย และเวเนซุเอลาจะตกอยู่ในสถานะการณ์ที่ยากลำบาก
มันจะเป็นภัยคุกคามต่อบริษัทฟอร์ด, จีเอ็ม และบริษัทผลิตรถยนต์ในเยอรมัน พวกเขาจะต้องเผชิญกับทางเลือกระหว่างการผลิตรถยนต์ไฟฟ้าที่กำไรต่ำมากหรือผันตัวเองไปเป็นผู้ให้บริการรถยนต์ไร้คนขับแบบ Uber และ Lyft
รถยนต์ยุคถัดไปจะเป็น “คอมพิวเตอร์ติดล้อ” Google, Apple, และ Foxconn มีเทคโนโลยีที่พร้อมจะเข้าไปยึดครอง และ Silicon Valley จะเป็นศูนย์กลางธุรกิจรถยนต์ไม่ใช่ Detroit, Wolfsburg หรือ Toyota City อีกต่อไป
“เรากำลังอยู่ในจุดที่เป็นการแตกสลายของการขนส่งที่เร็วที่สุดลึกล้ำที่สุดอย่างต่อเนื่องมากที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาตร์” Seba กล่าว “ยานยนต์ที่ใช้เครื่องยนต์สันดาปภายในจะเข้าสู่วัฏจักรอันเลวร้ายของต้นทุนที่เพิ่มขึ้น”
จุดเปลี่ยนจะมาถึงภายในสองสามปีข้างหน้า เมื่อแบตเตอรี่สำหรับรถยนต์ไฟฟ้าใช้งานได้เกิน 320 กิโลเมตร และราคารถยนต์ไฟฟ้าลดลงถึง 30,000 ดอลลาร์สหรัฐ ภายในปี 2022 รุ่นต่ำสุดราคาจะเหลือเพียง 20,000 ดอลลาร์ หลังจากนั้นก็จะเป็นการเปลี่ยนแปลงแบบถล่มทลาย
“ภายในปี 2025 รถใหม่ทั้งหมดจะเป็นรถไฟฟ้า ทั้งรถยนต์ รถบัส รถแทรกเตอร์ รถแวน ทุกอย่างที่มีล้อจะใช้ไฟฟ้าทั้งหมดทั่วโลก” Seba กล่าว
ข้อมูลและภาพจาก financialpost, stuff.co.nz
เรื่องจริง!! เยอรมัน เตรียมแบน รถยนต์ดีเซล และเบนซิน
http://www.thaicarlover.com/%E0%B9%80%E0%B8%A2%E0%B8%AD%E0%B8%A3%E0%B8%A1%E0%B8%B1%E0%B8%99-%E0%B9%80%E0%B8%95%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%9A%E0%B8%99-%E0%B8%A3%E0%B8%96%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%95%E0%B9%8C%E0%B8%94%E0%B8%B5%E0%B9%80%E0%B8%8B%E0%B8%A5-%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%8B%E0%B8%B4%E0%B8%99/73047
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น