สปีดชัตเตอร์..ตัวแปรสำคัญของภาพน้ำตกนุ่มๆ
อุปกรณ์เสริมที่ผู้ถ่ายภาพน้ำตกต้องมี
นอกจากกล้องคู่ใจแล้ว ผู้ที่ต้องการถ่ายภาพน้ำตกควรจะเตรียมอุปกรณ์เสริมดังนี้
ขาตั้งกล้อง อันนี้ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะให้ภาพถ่ายไม่สั่นไหว ซึ่งผู้ถ่ายภาพจำเป็นต้องมีติดตัวไปด้วย
สายลั่นชัดเตอร์ เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่จะช่วยไม่ให้กล้องสั่นเวลากดชัตเตอร์
ฟิลเตอร์ตัดแสงสะท้อน (CPL) อุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีหรือไม่ก็ได้ ซึ่งหากมีก็จะช่วยให้น้ำตกที่ถ่ายไม่ถูกลดทอนคุณภาพลงจากแสงที่สะท้อนจากผืนน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้น้ำตกดูสวยงามยิ่งขึ้นครับ
อุปกรณ์ป้องกันน้ำและความชื้น เช่น กระเป๋ากันน้ำ, ถุงพลาสติก, สารดูดความชื้น, ผ้าแห้งสำหรับเช็ดกล้องและเลนส์ เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณโดยรอบของน้ำตกจะมีความชื้นสูงอันเนื่องมาจากไอน้ำและละอองน้ำที่มีอยู่ค่อนข้างหนาแน่นมาก กอปรกับในช่วงนั้นเป็นฤดูฝนซึ่งผู้ถ่ายภาพน้ำตกควรจะต้องใส่ใจดูแลอุปกรณ์ถ่ายภาพของตนให้ดี
เทคนิคการถ่ายภาพน้ำตก
หัวใจสำคัญของการถ่ายภาพน้ำตกนั้นจะอยู่ที่การตั้งค่ารูรับแสง (Aperture), ค่าความไวชัดเตอร์ (Shutter Speed) และค่าความไวแสง (ISO) ในกรณีที่ผู้ถ่ายภาพที่ใช้กล้องในโหมด Manual นั้นจะต้องปรับค่ารูรับแสงให้แคบลงมากพอสมควร (เพิ่มค่า F) เพื่อให้เก็บรายละเอียดของเส้นสายน้ำตกได้เยอะขึ้น จากนั้นก็ตั้งค่าความไวแสงให้ต่ำเพื่อลดสัญญาณรบกวน (Noise) ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วชัตเตอร์ที่จะช้าลงด้วย ดังนั้นผู้ถ่ายภาพจึงจำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องและติดตั้งสายลั่นชัตเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนถ่ายภาพน้ำตกเสมอ
นอกจากกล้องคู่ใจแล้ว ผู้ที่ต้องการถ่ายภาพน้ำตกควรจะเตรียมอุปกรณ์เสริมดังนี้
ขาตั้งกล้อง อันนี้ถือเป็นอุปกรณ์สำคัญที่จะให้ภาพถ่ายไม่สั่นไหว ซึ่งผู้ถ่ายภาพจำเป็นต้องมีติดตัวไปด้วย
สายลั่นชัดเตอร์ เป็นอุปกรณ์อีกชิ้นที่จะช่วยไม่ให้กล้องสั่นเวลากดชัตเตอร์
ฟิลเตอร์ตัดแสงสะท้อน (CPL) อุปกรณ์ชิ้นนี้จะมีหรือไม่ก็ได้ ซึ่งหากมีก็จะช่วยให้น้ำตกที่ถ่ายไม่ถูกลดทอนคุณภาพลงจากแสงที่สะท้อนจากผืนน้ำ ซึ่งแน่นอนว่าจะทำให้น้ำตกดูสวยงามยิ่งขึ้นครับ
อุปกรณ์ป้องกันน้ำและความชื้น เช่น กระเป๋ากันน้ำ, ถุงพลาสติก, สารดูดความชื้น, ผ้าแห้งสำหรับเช็ดกล้องและเลนส์ เป็นต้น ทั้งนี้เนื่องจากบริเวณโดยรอบของน้ำตกจะมีความชื้นสูงอันเนื่องมาจากไอน้ำและละอองน้ำที่มีอยู่ค่อนข้างหนาแน่นมาก กอปรกับในช่วงนั้นเป็นฤดูฝนซึ่งผู้ถ่ายภาพน้ำตกควรจะต้องใส่ใจดูแลอุปกรณ์ถ่ายภาพของตนให้ดี
เทคนิคการถ่ายภาพน้ำตก
หัวใจสำคัญของการถ่ายภาพน้ำตกนั้นจะอยู่ที่การตั้งค่ารูรับแสง (Aperture), ค่าความไวชัดเตอร์ (Shutter Speed) และค่าความไวแสง (ISO) ในกรณีที่ผู้ถ่ายภาพที่ใช้กล้องในโหมด Manual นั้นจะต้องปรับค่ารูรับแสงให้แคบลงมากพอสมควร (เพิ่มค่า F) เพื่อให้เก็บรายละเอียดของเส้นสายน้ำตกได้เยอะขึ้น จากนั้นก็ตั้งค่าความไวแสงให้ต่ำเพื่อลดสัญญาณรบกวน (Noise) ซึ่งแน่นอนว่าจะส่งผลโดยตรงต่อความเร็วชัตเตอร์ที่จะช้าลงด้วย ดังนั้นผู้ถ่ายภาพจึงจำเป็นต้องใช้ขาตั้งกล้องและติดตั้งสายลั่นชัตเตอร์ให้เรียบร้อยก่อนถ่ายภาพน้ำตกเสมอ
น้ำตกเจ็ดคต EOS 40D, ความเร็วชัตเตอร์ 1/13 วินาที – รูรับแสง F/29 – ISO 200
ภาพนี้น้ำตกดูไม่ค่อยเป็นสายเท่าไรเนื่องจากตั้งความเร็วชัตเตอร์เร็วขึ้น และเปิดรูรับแสงกว้างขึ้นนั่นเอง
น้ำตกเจ็ดคต EOS 40D, ความเร็วชัตเตอร์ 1/1250 วินาที – รูรับแสง F/4 – ISO 1000
น้ำตกเจ็ดคต EOS 40D, ความเร็วชัตเตอร์ 1/1250 วินาที – รูรับแสง F/4 – ISO 1000
อีกวิธีง่าย ๆ ในการถ่ายภาพน้ำตกสำหรับผู้เริ่มต้นถ่ายภาพประเภทนี้ คือ อาจจะใช้การตั้งค่าโหมดถ่ายภาพเป็นโหมด S (TV) ก็ได้เช่นเดียวกัน จากนั้นให้ปรับความไวชัตเตอร์ให้ช้าลง ระบบของกล้องก็จะปรับรูรับแสงให้อัตโนมัติ ซึ่งถ่ายก็ต้องใช้สายลั่นชัตเตอร์และขาตั้งกล้องอีกด้วยเช่นกันครับ
ขอบคุณ https://men.kapook.com/view113092.html
พันทิป ดอม คอม
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น